ปุ๋ยสีทอง
ปุ๋ยสีทอง หรือ อาหารพืชสีทอง คือ
- ปุ๋ยสีทอง สารประกอบออแกนิค อินทรีย์ และมีสัดสวนของธาตุอาหารที่ครบสมบูรณ์ ในอนุภาคที่เล็กมาก และ เมื่อทำการเจือจางในน้ำสะอาดที่อัตราที่เหมาะสม จะ มีสถานะไอออนิก แอคทีฟประจุลบพิเศษ
- โดยทำการฉีดพ่นไปที่ใบ หรือทุกส่วนของพืช กลุ่มของสารอินทรีย์จากสีทองจะมีส่วนช่วยฟื้นฟูเซลล์ สมานแผล กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ ลดอาการใบด้าน และเพิ่มสีสันของใบ
- ด้วยความพิเศษ ของ K+ (โพแทสเซียม ไอออนิก) ในปุ๋ยสีทองจะมีบทบาทสำคัญต่อการ เปิด-ปิด ของปากใบพืช และช่วยควบคุมแรงดันเต่งของปากใบ (Stomata) เพื่อให้ปากใบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลไกลการคายน้ำเป็นไปอย่างสมบูรณ์ กระตุ้นการทำงานของ คลอโรพลาสต์ เพิ่มระบบการรักษาตัวเองของพืช ให้กลับมาเป็นเป็นปกติ พร้อมทั้งลดความเสื่อมชราของพืช ลงได้อีก
- ซึ่งความโดดเด่น ของ สูตรปุ๋ยสีทอง ที่เป็นอาหารให้กับพืช จะมีขั้นตอนเฉพาะและมีละเอียดอ่อน ในเรื่องต่อไปนี้
- ประสิทธิภาพในการแผ่กระจายใต้ผิวใบ โดยไม่ต้องใช้สารจับใบ เพราะอนุภาคของสารอาหาร จะเข้ากับตัวรับที่จุดรับใต้ใบพืชได้ง่ายกว่า
2. ประสิทธิภาพในการดูดซึมก้านใบ ช่อใบ ขั้วใบ ใต้ใบหรือบริเวณจุดใกล้ๆ ท่อลำเลียงน้ำ ซึ่งจะดูดซึมที่ปากใบเป็นหลัก (ถ้าปากใบไม่เปิดก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรณีอุณหภูมิระหว่างวันสูง ความชื้นสัมผัสที่ต่ำ)
3. ในสภาวะอากาศปิด มัวฝน เวลาเย็นหรือ กลางคืน การเข้าออกของสารระหว่างเซลล์พืช ปุ๋ยสีทองสามารถทำงานได้ ด้วยการทำงานร่วมกับ หน่วยรับสารอาหารบนผนังเซลล์พืชโดยการใช้พลังงานภายในเซลล์ที่เรียกว่า ATP (Adenosine triphosphate) เป็นตัวถ่ายทอดอิเล็กตรอน ขับเคลื่อนจำพวกธาตุ Mg(แมกนีเซียม) P(ฟอสฟอรัส) K(โพแทสเซียม) Zn(สังกะสี) แป้ง และ น้ำตาล
4. ในปุ๋ยสีทอง ไม่มี สารหนืด เหนียว ข้น หรือสารเติมเต็ม ผสมอยู่
สรุป
เราจึงเห็นได้ว่าหลังจากที่ฉีดพ่นปุ๋ยสีทอง ไปไม่กี่วัน ต้นไม้จากที่โทรมกลับมีการฟื้นตัวที่เร็ว และกับมารักษาสมดุลภายในได้ในระยะเวลาที่ไม่นาน รวมถึงสีสัน ลำต้น โครงสร้างของพืช และรสชาติ ที่เป็นไปตามธรรมชาติ และลดปัญหาปัญของ ใบที่เสื่อมคุณภาพที่เร็วเกินไป ในเรื่องใบแห้ง ใบกรอบ ใบเป็นจุดแห้ง ทำให้พืชเติบโต แข็งแรง เพิ่มผลผลิตได้อย่างดี.

คุณสมบัติ :
- ด้วยเทคโนโลยี การผลิตแบบ กึ่งสเปรย์ดราย ( Semi Spray Dried) และ การสร้างผลึกของอินทรียสาร รวมถึงสร้างสารปุ๋ยแร่ธรรมชาติในรูปแบบนวัตกรรม และการผสมผสานที่ลงตัวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โมเลกุลของสารใน ปุ๋ยสีทอง บางตัวอนุภาคเล็กกว่าระดับนาโนเมตร เมื่ออนุภาคของสารในปุ๋ยสีทอง เล็กขนาด กว่า โครงสร้างของหน่วยรับ ของเซลล์พืช ที่บริเวณจุดเนื้อเยื้อเจริญของพืช เช่นปลายยอด ปลายราก ตาดอก ตายอด ช่อใบอ่อน จะมีเซลล์ที่กำลังพัฒนาตัวเองในเรื่องการเจริญเติบโต อนุภาคของ สารที่ฉีดพ่นเข้าไปตรงบริเวณดังกล่าว จะทำให้หน่วยรับของสารมีการตอบสนองที่ดีและทำงานได้เร็วไว ง่าย ต่อการเคลื่อนย้ายปุ่ยสีทอง จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ได้อย่างดี
- ในหน่วยรับสารของพืช จะประกอบไปด้วยชั้นไขมันและโปรตีน ซึ่งในปุ๋ยสีทอง มีโปรตีนหรือ อะมิโนเบส จากสารอาหารชั้นดีจะเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์พืช ยอมรับ จุลธาตุต่างๆ หรือสารเสริมได้ดียิ่งขึ้น
- ปุ๋ยสีทอง ไม่มีการใส่องค์ประกอบสารเหนียว เพราะสารเหนียว จะทำให้ไอออนธาตุต่างๆ ถูกล้อมด้วยสารเหนียว ซึ่งจะไปอุดตัน ตรงบริเวณหน่วยรับสารเข้าเซลล์พืชในระยะยาว แล้วผสมกับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้โปรตีนหน่วยรับเซลล์นี้ เสียหาย เมื่อโปรตีนหน่วยรับตายไปมากๆ ขึ้น ก็กลายเป็นใบถ่วง ไม่สารมารถรับสารอาหารทางใบได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นอันตรายต่อพืชเป็นอย่างมาก.
คุณสมบัติโดดเด่น :
- ลดกรดแอบไซซิค ที่เป็นสาเหตุของการพักตัวของพืช ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม เช่นร้อนหนาวแห้งแล้ง ฝนตกมาก หรือการเข้าทำลายของโรคแมลง และควบคุมการเกิด ก๊าซเอทิลีน (Ethylene)
- ลดสภาวะกรดเกินในลำต้นหรือส่วนต่างๆ ของพืช ที่มีสาเหตุจากการได้รับ ปุ๋ยเม็ดโฟม ปุ๋ยน้ำตาลทราย หรือปุ๋ยตัวหน้าที่มีสูตรสูง ที่มากเกินไปเกินระดับ จนมีการตกค้างของสาร และถูกเร่งปฏิกิริยาเคมีด้วยน้ำฝน จนทำให้สภาวะในต้นพืชมีกรดสูง ทำให้สัดส่วนของจิบเบอเรลลิน(Gibberellin) กับออกซิน และไซโตไคนิน(Cytokinin) ไม่อยู่ในระดับที่สมดุลของพืช ส่งผลทำให้เกิดเชื้อเข้าทำลายราก ลำต้น ใบ ได้ง่าย เมื่อสภาวะในต้นพืชมีกรดมากเพื่อโดนแสงแดดจัดทำให้ใบกรอบ ใบด้าน ใบไม่สวย ไม่เป็นเงามัน
- เมื่อกรดในใบสูงระดับที่พืชต้องการประกอบกับเจอความร้อนที่สูง และขาดกลุ่มสารจุลธาตุ ทำให้ ทำให้เกิดโรคใบแห้ง ใบเป็นจุดแห้ง ใบแห้งโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ส่งเสริมการบวนการสร้างน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวและควบคุมกลไกล การเคลื่อนย้ายน้ำตาล ระดับพลังงาน พร้อมกับการส่งเสริมการเปลี่ยนโครงสร้างน้ำตาลที่ได้จากการสังเคราะห์แสงให้มีการสะสมที่ ผล หรือ ใบ ในรูปของแป้ง หรือโปรตีน กรดไขมัน อย่างสมบูรณ์แบบ
- สารเสริมในปุ๋ยสีทอง ยังช่วยในเรื่องการ ตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ เข้าสู่ใบพืชเพื่อ เพื่อการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในรูปของกรดอินทรีย์ สารประกอบอินทรีย์ที่ส่งผลระยะสุดท้ายคือ การเพิ่มน้ำหนักของใบและผล และคุณภาพของผลนั่นเอง
- สารเสริมในปุ่ยสีทอง ส่งเสริมการเกิดเม็ดสี การเข้าสี การสร้างเนื้อของผล ส่งเสริมการสร้างเนื้อของผล
- สารเสริมในปุ๋ยสีทอง เป็นองค์ประกอบของสารอินทรีย์ ช่วยในการฟืนตัวได้เร็วจากพืช ที่โทรม โดนหนอนแมลงเข้าทำลาย หรือจากรากขาด รากเน่า หรือการเปาะกิ่งหัก บาดแผล
- สารเสริมปุ๋ยสีทอง ช่วยในเรื่องการกระตุ้นการสร้างสารเคลือบใบ ลิกนิน คิวติน โครงสร้างของใบพืชแข็งแรง ลดสภาวะแรงตึงเครียดภายในของกระบวนการสังเคราะห์แสง
- สารเสริมปุ๋ยสีทอง สามารถฉีดพ่นได้ทั้งพืชที่สมบูรณ์และพืชที่ขาดธาตุอาหาร เพราะแหล่งที่มาได้มาจากการสกัดและการตกผลึก ของสารอินทรีย์ธรรมชาติและพืชทะเล ไม่ได้เกิดมาจาก การสังเคราะห์เคมีปิโตเลียม หรือเคมีสังเคราะห์
- สารเสริมปุ๋ยสีทอง ทั้งหมดจะเป็นสารแก้ไขปัญหา ระบบการติดขัดของกระบวนการภายในเซลล์ต่างๆ เช่น การติดขัดในขั้นตอนการสังเคราะห์แสง, ติดขัดในเรื่องการลำเลียงน้ำธาตุอาหาร, ติดขัดในเรื่องการขนส่งแป้งน้ำตาล, ติดขัดในเรื่องการสังเคราะห์เอนไซด์และฮอร์โมนควบคุม เป็นต้น
- สารเสริมปุ๋ยสีทอง เป็นตัวเพิ่มพลังงานระดับเซลล์ของกับพืช ในกรณีที่พืชสังเคราะห์แสงไม่ได้ หรือการหายใจระดับเซลล์ไม่ดี
ส่วนประกอบ :
- เป็นสารอินทรีย์ที่เกิดจากโมเลกุลของสารหลายชนิดรวมกันกับฮิวมิค เป็นสารผสมเข้มข้นของสารประกอบคาร์โบไฮเดรตหลายชนิด และมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
- ธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียม
- ธาตุอาหารรอง ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน
- ธาตุอาหารเสริม ได้แก่ เหล็ก แมงกานีส ทองแดง โบรอน โมลิบดินัม สังกะสี คลอไรด์ เป็นต้น
คุณประโยชน์ :
- ฉีดพ่นทางใบดูดซึมภายใน 45 วินาที
- เป็นสารอินทรีย์สกัดพิเศษ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางใบ ลำต้น เพิ่มพลังงานให้พืชอย่างต่อเนื่อง
- ช่วยปรับโครงสร้างเนื้อเยื่อ ขยายเซลส์ ช่วยฟื้นฟูต้นพืชที่โทรมให้แข็งแรง ทนต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลง
- ทำให้พืชดูดซับธาตุอาหารในดิน เพื่อนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างพืช ช่วยเร่งการแตกหน่อ แตกกอ เร่งต้น เร่งผล เร่งดอก เร่งราก เร่งใบ ทำให้ พืชสมบูรณ์แข็งแรง ใช้ง่าย ประหยัด
- ทำให้พืชทนแล้ง ต้านหนาว ลดความเครียดของพืช อันเนื่องมาจากการขาดธาตุอาหาร และสภาวะอากาศแปรปรวน
- เร่งการงอกของเมล็ด เมื่อนำไปแช่ก่อนปลูก
- มีสารป้องกันโรค และแมลงศัตรูพืช ช่วยยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคพืช ลดอาการเน่าจากเชื้อรา
- ระยะติดดอก สีทองช่วยเปิดตาดอก ช่วยผสมเกษร ติดผล ลงหัว สมบูรณ์เต็มที่ ช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตให้ปริมาณสูงสุด
- ทำให้พืชมีหัวขนาดใหญ่ เนื้อแน่น ไส้ไม่กลวง ทนแล้ง ขั้วเหนียว ลดการหลุดร่วง
- ช่วยลดการคุกคามของแมลงศัตรูพืช ได้อย่างปลอดภัยเป็นธรรมชาติ
- เสริมสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ดิน ใช้ได้กับพืชทุกชนิด พืชสวน พืชไร่ พืชล้มลุก พืชผักต่างๆ ผลไม้ทุกชนิด ไม้ดอก ไม้ประดับ นาข้าว ปาล์ม พริก มัน สำปะหลัง อ้อย มะนาว ยางพารา เป็นต้น
ปุ๋ยสีทอง วิธีใช้ กับพืชชนิดต่างๆ :
List of Services
-
- ข้าวทุกชนิดList Item 1
- วิธีการใช้ปุ๋ยสีทอง กับ นาข้าว ถ้าดินขาดแร่ธาตุ และดินเป็นกรด แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสีทอง ปรับปรุงดิน
- ปุ๋ยสีทอง 1 ซอง ผสม 100 ลิตร ปรับปรุงดินได้ 3 ไร่ ฉีดพ่นไปที่ดิน.
- แนะนำให้แช่ เมล็ดด้วย สัดสวน 1 ซอง ผสม100 ลิตร แช่ 1 คืน
- ระยะต้นกล้า ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร(ฉีดพ่นได้ 5 ไร่)
- ระยะแตกกอ ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร(ฉีดพ่นได้ 5 ไร่)
- ระยะสร้างรวง,เมล็ด,น้ำหนัก ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร ( ฉีดพ่นได้ 5 ไร่)
- ช่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าว 30 วัน ใช้ 1 ซอง ต่อน้ำ 120 ลิตร (ฉีดพ่นได้ 5 ไร่
-
- อ้อย ยางพารา ปาร์มList Item 2
- อ้อย ยางพารา ปาล์ม อายุไม่เกิน 3 เดือน
- ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 120 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10-15 วัน
- อายุ 3 เดือนขึ้นไป ใช้ 1 ซองผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก 15-30 วัน
-
- ข้าวโพดList Item 3
- อัตราส่วน 1ซอง ผสม 200 ลิตร
อายุ 15 วัน ฉีดครั้ง ที่ 1
อายุ 30 วัน ฉีดครั้งที่ 2
อายุ 45 วัน ฉีดครั้งที่ 3
และ ฉีดพ่นต่อเนื่อง ทุก 10-15 วันอัตราส่วน 1ซอง ผสม 200 ลิตร ทุกรอบของการฉีดพ่น เดินได้ 5 ไร่
- และสามารถแช่เมล็ดข้าวโพด เพื่อกระตุ้นการงอกที่สมบูรณ์.
-
- มันสัมปะหลังList Item 4
- อายุ 15 วัน ฉีดครั้ง ที่ 1 ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร
- อายุ 30 วัน ฉีดครั้งที่ 2 ใช้ 1ซองต่อน้ำ 200 ลิตร
- อายุ 45 - 60 วัน ฉีดครั้งที่ 3 (ระเบิดหัว) ใช้ 1 ซอง ต่อน้ำ 120 ลิตร
- ฉีดไปที่ใบเป็นละอองฝอยและที่ดินโคนต้นมันสำปะหลังด้วย และ ฉีดพ่นต่อเนื่อง ทุก 10-15 วัน อัตราส่วน ใช้ 1ซอง ผสม 200 ลิตร ฉีดพ่นได้ 5 ไร่ ต่อซอง
-
- ไม้ผล ไม้ยืนต้น
- ไม้ผล ไม้ยืนต้น เช่น มะม่วง มังคุดทุเรียน ลำไย ส้ม เงาะ ลิ้นจี่ ลองกองมะนาว มะพร้าว ฝรั่งน้อยหน่า ละมุดขนุน สัปปะรด ส้มโอ เป็นต้น
- อายุไม่เกิน 3เดือน ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10-15 วัน
- อายุ 3 เดือนขึ้นไป ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 120 ลิตร ฉีดพ่นทุก 15-30 วัน
- ถ้าใช้ ราดโคน ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 60 ลิตร ราดทุก 15-30 วัน
-
- ผักต่างๆ
- พืชผักต่างๆ ผักกินใบ เช่น พริก หอม กระเทียม ผักชี คะน้า กวางตุ้ง กระเจี๊ยบ มะเขือกะหล่ำดอกกะหล่ำปลี เป็นต้น
- อายุไม่ถึง 1เดือน ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก7-10 วัน
- หรือ ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 300-400 ลิตร ฉีดพ่นทุก 4 วัน
-
- พืชล้มลุก พืชตระกูลเถาเลื้อย
- พืชล้มลุก พืชตะกูลเถาเลื้อย เช่น ถั่ว งา ฟักเขียว ฟักทอง มะระ แตงกวา แตงโม แคนตาลูป ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ มะละกอ กล้วย อื่นๆ
- ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
- หรือ ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 300-400 ลิตร ฉีดพ่น ฉีดพ่นทุก 4 วัน
- เพื่อปรับปรุงดิน ลดกรด เพิ่มแร่ธาตุในดิน ใช้ ปุ๋ยสีทอง 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นได้ 3 ไร่
-
- ไม้ดอก ไม้ประดับ
- ไม้ดอก ไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ ดาวเรือง กุหลาบ มะลิ เป็นต้น
- ในช่วง แรก ไม่เกิน 1 เดือน ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 300-400ลิตร ฉีดพ่นทุก 7วัน
- ถ้า อายุ1 เดือนขึ้นไป ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 300 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10-15 วัน ฉีดพ่นได้ 10 ไร่ ต่อ 1 ซอง
-
- พืชลงหัว มันฝรั่ง มันเทศ
- พืชลงหัว เช่น มันฝรั่ง มันเทศ มันแกว เผือก อื่นๆ
- อายุไม่ถึง 1 เดือน ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
- อายุ 1 เดือนขึ้นไป ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10-15 วัน
-
- การปรับสภาพดิน
- ปรับสภาพดิน เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งก่อนการปลูกพืชทุกชนิด ปุ๋ยสีทองสามารถนำไปปรับปรุงดินได้ โดยการ
- ใช้ 1 ซองต่อน้ำ 100 ลิตร สำหรับดินเสีย ฉีดพ่นได้ 1ไร่
- เพิ่มแร่ธาตุในดิน ใช้ 1ซองฉีดพ่นได้ 3 ไร่ และ พ่นช่วงเตรียมดินก่อนปลูก
- ใช้ราดโคน 1 ซอง ผสมน้ำ 60 ลิตร ราดต้นละ 2-3 ลิตร อยู่ที่ขนาดต้นเล็กหรือใหญ่
ปุ๋ยสีทอง สั่งซื้อได้ที่ไหน ?
- สั่งซื้อได้ที่ ตัวแทนที่อยู่ในพื้นที่ของท่าน และต้อง ได้รับการแต่งตั้ง อย่างเป็นทางการ จากบริษัทฯ เท่านั้น (ดูรายชื่อตัวแทน)
- ในกรณีที่ ในพื้นที่ของท่านไม่มีตัวแทนจัดจำหน่าย สามารถติดต่อกับทาง บริษัทฯ ได้โดยตรง เพื่อทางบริษัท จะทำการจัดหาตัวแทนในการจำหน่ายสินค้าและการบริการอย่างถูกต้อง ให้กับท่านต่อไป.(ติดต่อทางบริษัทฯ)